หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ท่องเที่ยว อุโมงค์กู๋จี ตามรอยวิถีแห่งสงคราม

 

ที่มา:https://www.pbs.org/wgbh/americanexperience/collections/vietnam-war/


           การท่องเที่ยวประเทศเวียดนามในปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งสร้างรายได้จำนวนมากให้กับประเทศ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และประวัติศาสตร์ อาทิ พระราชวังเว้ อ่าวฮาลอง เมืองฮอยอัน ชายหาดญาจาง ปราสาทหทีเซิน เป็นต้น ล้วนเเล้วเเต่เป็นการสะท้อนถึงความงดงามทางธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่ผ่านการสร้างสรรค์อย่างงดงามจากฝีมือของบรรพบุรุษ เเต่ในขณะเดียวกันประเทศเวียดนามต้องผ่านความวุ่นวาย และความขัดเเย้ง จนกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ของประเทศ  ที่สร้างทั้งความภาคภูมิใจแห่งชัยชนะและคร่าชีวิตชาวเวียดนามไปมากเช่นกัน วันนี้จะพาทุกท่านไปเรียรู้ประวัติศาสตร์ ชมอนุสรณ์สถานของสงครามเวียดนามกับ " อุโมงค์กู๋จี " ตามรอยวิถีแห่งสงคราม

ที่มา:https://pickyourtrail.com/blog/cu-chi-tunnels/

  อุโมงค์กู๋จี ตั้งอยู่อำเภอกู่จี ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโฮจิมินห์ ประมาณ 40 กิโลเมตร ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์สงครามเวียดนาม โดยสถานที่แห่งนี้ คือ ที่มั่นหลักทหารเวียดกง  ใช้เป็นที่หลบภัยจากระเบิด และเป็นที่สำหรับประชุมของกองกำลังในสมัยที่รบกับสหรัฐอเมริกา ส่วนภายในของอุโมงค์ประกอบไปด้วยโรงพยาบาล ห้องประชุม และห้องพัก


ที่มา:https://sites.google.com/site/social077/

ประวัติศาสตร์

สงครามเวียดนาม เกิดขึ้นในปี 2498 - 2518  เป็นสงครามอินโดจีนครั้งที่สองและเป็นการต่อสู้ระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้อย่างเป็นทางการ หลังจากฝรั่งเศสถอนตัวออกจากเวียดนาม ชาวเวียดนามเรียกสงครามครั้งนี้ว่า สงครามต่อต้านอเมริกา หรือ สงครามอเมริกา เป็นการต่อสู้ภายใต้ความเเตกต่างทางอุดมการณ์ระหว่างโลกเสรีนำโดยสหรัฐอเมริกาและโลกคอมมิวนิสต์นำโดยสหภาพโซเวียด บนดินเเผ่นดินเวียดนามตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ได้สร้างร่องเเห่งความสูญเสียทรัพย์สินและชีวิตกว่า 2,058,000 คน ไม่ว่าจะเป็นทหาร พลเรือน   โดยกองกำลังเวียดนามเหนือ หรือที่เรียกว่า กองทหารเวียดมิญ ผสม กับกองกำลังเวียดนามใต้ หรือที่เรียกกันว่า ทหารเวียดกง ซึ่งทำหน้าที่ต่อต้านรัฐบาลเวียดนามใต้เเละทหารสหรัฐอเมริกา ด้วยยุธวิธีเเบบกองโจรจนได้ผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ก่อนกองทัพเวียดนามเหนือก็เข้ายึดเมืองหลวงของเวียดนามใต้ได้สำเร็จ จึงทำให้สงครามเวียดนามที่ดำเนินมาอย่างยาวนานเป็นอันสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของเวียดนามเหนือและได้ทำการรวมประเทศเวียดนามกลับมาดังเดิมอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน

ที่มา:https://www.facebook.com/306137976179096/posts/584833101642914/

อุโมงค์กู๋จี 

ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายปี 1940 ในช่วงสงครามกับฝรั่งเศส การขุดเจาะอุโมงค์ถูกนำมาสำหรับการสื่อสารระหว่างหมู่บ้านและจะหลบเลี่ยงกองทัพของฝรั่งเศสในพื้นที่ งถือได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญอย่างมากและคนในพื้นที่อำเภอกู๋จี และพื้นที่ใกล้เคียงอยู่ภายใต้การปกครองของกองทัพเวียตกง

อุโมงค์ลับจะต่อระหว่างหมู่บ้านต่อหมู่บ้าน และยังผ่านไปใต้ฐานทัพของอเมริกันอีกด้วย ไม่เป็นเพียงป้อมปราการสำหรับกำลังกองเวียตกง แต่ก็ยังเป็นศูนย์กลางของชีวิตชุมชนซึ่งซ่อนอยู่ใต้หมู่บ้านที่ถูกทำลาย เป็นโรงเรียนใต้ดินและพื้นที่สาธารณะที่คู่แต่งงานและสถานที่ส่วนตัวที่คนรักพบกัน มีโรงภาพยนตร์ รวมทั้งแหล่งความบันเทิงด้วยเสียงเพลงและการเต้นรำ คลังเสบียง และคลังอาวุธ


ที่มา:https://pantip.com/topic/30744653

อุโมงกู๋จี มีความยาวถึง 250 กิโลเมตร ทั่วเมืองไซ่งอน(โฮจิมินห์) ลึกลงไปใต้ดินถึง 4 ระดับ ตั้งเเต่ 3  6  10 และ 15 เมตร ตามลำดับ  แต่ที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมคือที่ระดับตื้นสุดที่ 3 เมตรจากผิวดิน เปิดให้ชมเพียง 120 เมตรเท่านั้น พร้อมทางออกทุกๆ 20 เมตร   ทหารเวียดกงใช้เป็นสมรภูมิรบแบบกองโจร ซึ่งเมืองใต้ดินแห่งนี้ มีทั้งโรงพยาบาท, ที่เก็บอาวุธ, ห้องประชุม, โรงครัว และมีทหารประจำการอยู่ที่นี้หลายหมื่นคน

นอกจากนี้ยังมียังส่วนแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุโมงค์ ทั้งหนทางจัดการกับดินที่ขุดออกมาจากอุโมงค์ วิธีการระบายอากาศ กับดักศัตรู ทางเข้าลับ วิธีสร้างอาวุธ ฯลฯ อีกทั้งยังคงเหลือซากแห่งสงคราม อาทิ รถถัง เครื่องบิน วัตถุระเบิด และหลุมระเบิดขนาดใหญ่ 

ที่มา:https://pantip.com/topic/31857380

ซากรถถังสหรัฐอเมริกา

ที่มา:https://pantip.com/topic/30744653

รูหายใจ ลักษณะคล้ายจอมปลวก เพื่อพรางตาทหารสหรัฐ

 

Handycrafted 

ซึ่งเป็นศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าจากผู้พิการที่ได้รับผลกระทบจากสงครามเวียดนาม

ที่มา:https://pantip.com/topic/39320488

อัตราค่าเข้าชม

ซื้อจากบริษัททัวร์ที่ถนน Pham Ngu Lao ในเมืองโฮจิมินห์  ราคาคนละ 80,000 ดง หรือ 130 บาท 

ค่าเข้าชมคนละ 110,000 ดอง (151 บาท)



จะเห็นได้ว่าเรื่องราวประวัติศาสตร์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นเรื่องราวหลายหลายแง่มุมทั้งความสุข ความทุกข์ ความสูญเสีย อันการย้ำเตือนถึงความโหดร้ายของสงคราม ในขณะเดียวกันยังได้เรียนรู้ถึงการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของผู้คน ภูมิปัญา ความคิด ความร่วมมือร่วมใจ จนสามารถผ่านอุปสรรค์ต่างๆมาได้  อย่างเช่น อุโมงค์กู๋จี เเห่งนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ และเอาชีวิตรอดของคนเวียดนาม ฉะนั่น ผมจึงอยาเชิญชวนทุกๆท่านได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งสงครามนี้ เเละเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ ตลอดจนความโหดร้าย ความทุกข์ยากลำบาก จากผลพวงของสงคราม และตระหนักว่าสงครามไม่เคยส่งผลดีต่อใคร ความเอื้อเพื้อ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จะสร้างสันติสุขได้อย่างเเท้จริง






อ้างอิง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น